เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) เราเกิดอาการว่างงานมาก จึงไปเดินเล่นงานมหกรรมการศึกษาต่อออสเตรเลีย (สะกดอย่างงี้ป่าวหว่า?) ที่จัดโดย IDP ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต โดยงานจัดตั้งแต่วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง ที่ไปนี่ไม่ใช่อะไรหรอก... แต่กะจะไปสอบถามข้อมูล UNSW กับฉกใบปลิวมาแค่นั้นแหละ :P
พอเดินเข้าไปถึงงานก็โดนจับกรองแบบฟอร์มลงทะเบียน... ไม่รู้ว่ามันจะให้กรอกอะไรกันนักกันหนา เยอะชิบ กรอกเสร็จปุ๊ป ก็เดินร่อนเข้าไปในงานมองหาบู๊ตของ UNSW ทันที ตอนแรกเกือบหาไม่เจอ นึกว่าจะมาเสียเที่ยวซะแล้ว ที่ไหนได้บู๊ตเค้าเล่นไปซ่อนอยู่ซะข้างหลังเชียว ได้โอกาสก็ตรงเข้าไปสอบถามพี่ที่คุ้มบู๊ตทันที เพราะมีคนนั่งอยู่เต็มบู๊ต เราก็เลยลองถามพี่เค้าดูว่าชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กไทยที่ไปออสเป็นไงมั่ง... พี่เค้าตอบได้น่าประทับใจมาก... "ก็เหมือนอยู่ต่างจังหวัดบ้านเราแหละน้อง..." เราเห็นทีท่าจะไม่รอด เลยขอพี่เค้าคุยกับอาจารย์ชาวออสที่มาจากคณะวิศวะเลยดีกว่า พี่เค้าก็อดห่วงเราไม่ได้ อุตสาห์ถามอีกว่าคุยกับอาจารย์ฝรั่งรู้เรื่องนะ (โทษทีนะพี่ แต่ ielts ผมผ่านแล้วนะเว่ย)
พอแนะนำตัวกับท่านอาจารย์กันเสร็จ เราก็คุยกับเค้าเรื่องความเป็นอยู่ทันที อาจารย์เค้าบอกว่าโดยส่วนมากเด็กนานาชาติ (รวมถึงเด็กโครการ TEP อย่างเราๆด้วย) มักจะต้องอยู่หอนอก เนื่องจากหอของมหาวิทยาลัยจะเต็มอยู่ตลอดเวลา เพราะดันสร้างไม่พอกับจำนวนนักศึกษา (อะไรมันจะเหมือน มธ. ขนาดนั๊นนน) และเนื่องจากเด็กนานาชาติกว่าจะเข้าร่วมชั้นเรียนกับเด็กปกติของเค้าก็ปาเข้าไปช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเทอม 2 ของเค้าแล้วอะ (เทอม 1 เปิดเดือนมีนา) ดังนั้นหอในเต็มชัวร์ แต่หอนอกก็อยู่ในระยะเดินไปกลับมหาวิทยาลัยได้นะ
คณะวิศวะของทาง UNSW ค่อนข้างจะใหญ่มาก เมื่อเทียบกับวิศวะยูงทองของเรา ภาควิชาแต่ละภาควิชาจะมีตึกเรียนและห้องปฏิบัติการเป็นของตัวเอง ไม่ต้องแบ่ง(แย่ง)กันใช้เหมือนของเรา...
จำนวนนักศึกษาทั้งหมดของ UNSW จะตกอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นกว่าคน โดยมีเด็กนานาชาติอยู่ร่วมด้วยประมาณ 9 พัน... ส่วนมากจะเป็นเด็กจากแถบ East Asia และ South East Asia แบบเราๆอ่านะ
ถามไร้สาระอยู่นาน ถึงคำถามเด็ด เราขอให้เค้าช่วยเปรียบเทียบข้อดี-เสียระหว่าง ออส กับ อังกฤษ (ดูซิจะกล้าตอบไหม เหอๆๆ) ท่านอาจารย์เค้าก็แจงให้ฟังว่าทาง ประเทศออส ของเค้าจะมีข้อดีกว่าตรงที่ชีวิตความเป็นอยู่ (aka. lifestyle) ที่ออสจะออกแนวสบายๆกว่า ไม่เครียดเท่าอังกฤษ ส่วนทางอังกฤษจะมีข้อได้เปรียบตรงที่มหาลัยมักจะมี connection กับมหาลัยในยุโรป ทำให้โอกาสหางานหรือศึกษาต่อในแถบนั้นสูงกว่ามาก (แต่เค้าก็บอกว่า UNSW ของเค้าก็มี connection กับแถบเอเซียเช่นกัน)
สรุปแล้วท่านอาจารย์ฟันธงเลยว่า ยูอยากไปประเทศไหนก็จงไปที่นั่น - -" มหาลัยทั้ง NU และ UNSW ก็ต่างมีชื่อเสียงด้วยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้น ยูชอบที่ไหนก็ไปที่นั่น (เจริญครับ...) ก่อนกล่าวอำลากัน อาจารย์เค้าแอบแจกนามบัตรให้เรา พลิกดูแทบช็อค ไม่คิดว่ามหาลัยบ้าที่ไหนเค้าจะลงทุนให้ associate dean ของคณะมานั่งเฝ้าบู๊ต o_O แถมเค้ายังบอกทิ้งท้ายอีกด้วยว่า ทูมอโร่ไอจะไปธรรมศาสตร์ด้วย...ไปหา director ของโครงการยู -_-" (วันนี้ก็ยังไม่เห็นเลยแฮะ ไม่รู้ว่ามาตอนกี่โมง)
ของฝากจากงานนี้คือหนังสือแนะนำคณะ+ข้อมูลมหาลัยของ UNSW ที่เราไปจิ๊กมา 2 ชุด ... เพื่อนที่จะไป UNSW สนใจขอยืมเราหรือนาน่าดูได้นะ
(รายการต่อไป: british council มันจัดงานเมื่อไหร่เตรียมตัวไว้เถอะ NU! เราจะไปตบใบปลิวมาอีก เหอๆๆๆ)
2 comments:
ขอบคุณมากเลยวิน ^__^
^ ไม่เป็นไรคร้าบ...
(ปล. ไอ้ข่าวเรื่องรับน้องและงาน farewell นี่แกจะ post มันเมื่อไหร่เนีย? เห็นเป็น draft ทิ้งไว้อยู่หลายวันแล้วนะ...)
Post a Comment